วิธีการอธิบาย ดูหนังใหม่ ถึงห้าปี

"“1917” : สงครามโลก one shot จะว่าม้ามืดก็ไม่ใช่เสียรู้เดียว จะว่าหนังดังหนังเต็งมาแต่อ้อนแต่ออกก็อาจจะไม่ใช่เหมือนกัน แต่ภายหลังหนังสงครามโลกครั้งที่ 1 ดูหนังใหม่ เรื่อง 1917 พลิกโผ (เล็กๆ) ได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมชนิดดราม่าจากเวที Golden Globes เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ทำให้ขณะนี้หนังเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นเลิศในสองหรือสามเรื่องแถวหน้าที่น่าจะได้รางวัลออสการ์ Best Picture ที่จะประกาศกันวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้

หนังเรื่องปัจจุบันจากผู้กำกับ แซม เมนเดส (American Beauty, Skyfall อื่นๆอีกมากมาย) มีกระแสมาบ้างก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนังน่าจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ 1917 ขายคุณลักษณะเด่นว่าเป็นหนัง one shot ไหมมีการตัดภาพเลยตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ (แต่ในความเป็นจริงแล้วตัด เพียงใช้เคล็ดวิธีในการ transition ที่ทำให้ดูเหมือนกับว่าเป็นช็อตต่อเนื่องยาวเพียงแค่นั้น) เมนเดสเคยได้รางวัลออสการ์มาแล้วกับ American Beauty หนังดังจากยุคปี 1999 ได้ทั้งยัง Best Picture, Best Director รวมทั้งอีกหลายรางวัล หรือนี่จะเป็นปีทองของผู้กำกับอังกฤษคนนี้อีกทีกับหนังสงครามเรื่องนี้ หนังสงครามโลกมีสร้างกันอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนจะทุกปี โดยมากจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียมากกว่า หนังเรื่อง 1917 สร้างขึ้นจาก “เรื่องเล่า” ของสมัยก่อนทหารอังกฤษที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 เรื่องราวเกิดขึ้นในม.ย.ปี 1917 หรือ สามปีภายหลังจากการทำศึกเกิดขึ้น แล้วก็สถานการณ์การสู้รบในสนามเพลาะแนวหน้าของยุโรปเต็มไปด้วยศพรวมทั้งความป่าเถื่อนจากการต่อสู้ที่ยื้อกันไปๆมาๆอย่างไม่มีวี่แววจะเลิก หนังเซ็ทเรื่องขึ้นมากล้วยๆเลยภายใน 5 นาทีแรก เป็นนายทหารอังกฤษสองนายชื่อ เบลค กับ สคอฟิลด์ (แสดงโดย ดีนส์ ชาร์ล-แชปแมน รวมทั้ง จอร์จ แมคเคย์) ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพให้เดินทางลึกเข้าไปในดินแดนของฝ่ายข้าศึกเยอรมัน เพื่อถ่ายทอดคำสั่งไปยังกองพันที่ปักหลักรอบุกอยู่ที่แนวหน้า ให้ถอนกำลังกลับ เพราะเหตุว่าการที่ฝ่ายเยอรมันถอนกองทัพไปนั้นเป็นเพียงแค่กับดักเพื่อล่อลวง และถ้าหากข้างอังกฤษบุกเข้าไปจะสูญเสียเลือดเนื้ออย่างมากมาย พลทหารเบลค มีพี่ชายที่ทำหน้าที่อยู่ในกองพันที่กำลังรอคอยจะบุก ทำให้เขายิ่งมีแรงจูงใจในภารกิจเสี่ยงตายนี้ เพื่อช่วยพี่ชายของตัวเอง หนังสงครามที่ใช้เทคนิคใกล้เคียงกันกับ 1917 คือหนังฮังการีเรื่อง Son of Saul หนังจุดเกิดเหตุในค่ายกักกันชาวยิว และก็เป็นหนังที่ได้รางวัลหนังภาษาต่างประเทศดีเยี่ยมที่สุดเมื่อปี 2016 ไม่เหมือนกันตรงที่ Son of Saul ใช้ภาพแคบ ชัดตื้น เพื่อสร้างความอึดอัดและน่าสะพรึงกลัว แต่ 1917 ใช้ภาพกว้างที่เห็นไปไกล แล้วก็ใช้การวางแผนเขยื้อนที่สลับซับซ้อนและก็แนวทางพิเศษเพื่อสร้างอารมณ์ร่วม ลองดูสองเรื่องนี้เทียบอาจทำให้เราเห็นมุมมองด้านเทคนิคที่น่าดึงดูด

image

สรุปเป็น 1917 เป็นหนังสงครามที่มองสนุก พราวแพรวด้วยแนวทาง (เกือบจะเกินไป) แล้วก็ด้วยความที่เป็นหนังสงครามโลกและบอกเรื่องความเสียสละ อันเป็นประเด็นที่ออสการ์ถูกใจเหลือเกิน ทำให้หนังน่าจะเป็นตัวเลือกที่เย้ายวนสำหรับรางวัลอันแสนจะอนุรักษนิยมรางวัลนี้"