"10 เหตุผลที่ทำให้ John Wick เป็นหนังบู๊ยอดเยี่ยมที่ทศวรรษ 2010sดาราที่เคยดังในยุค 90s อย่าง Keanu Reeves มีหนังดังๆในสมัยนั้นหลายเรื่องอย่าง Speed (1994) รวมทั้ง The Matrix สามภาค (1999-2003) เขาได้ฟื้นกลับมาเป็นผู้แสดงแถวหน้าอีกครั้งกับแฟรนไชส์ John Wick (2014-2019) ในทศวรรษนี้ เอกลักษณ์ที่เด่นไม่ซ้ำใครของหนังสามภาคที่กำลังมีภาคที่ 4 ฉายชนกันกับภาค 4 ของหนัง Keanu อีกประเด็นอย่าง The Matrix 4 ในวันที่ 21 เดือนพฤษภาคม 2021 (หรือจนถึงจะมีค่ายหนึ่งค่ายใดยอมเปลี่ยนแปลงวัน) อยู่ที่คิวบู๊และความดิบทารุณโหดร้าย สาแก่ใจคนชอบดูหนังบู๊แอ็กชัน แต่เว้นเสียแต่คิวบู๊แล้ว เรื่องราวของ “มือสังหารผู้รักหมา” คนนี้ ก็ยังมีดีและมีอีกหลายเหตุผล ซึ่งทำให้หนังได้รับความนิยมและบรรลุเป้าหมาย วันนี้ What The Fact ได้เก็บรวบรวมเหตุผลพวกนั้น มาเล่าให้ฟังเหตุผลที่ 1 บิดา Reeves แสดงคิวบู๊เกือบ 100%ด้วยตัวเองถ้าเทียบรูปทรงของคิวบู๊ในภาคแรก Reeves แสดงเองไปถึง 90% ของทั้งเรื่อง (ที่เหลือเป็นสัดส่วนของสตั๊นท์แมน) ถึงแม้ว่าในภาค 2 ยิ่งเกินจริงขึ้นไปอีก เนื่องจากพ่อแสดงไปถึง 95% แปลงเป็นงานง่ายของกรุ๊ปตัดต่อที่จะไม่ต้องเลือกช็อตเปลี่ยนแปลงมุมกล้องถ่ายรูปเพื่อหลบการเห็นหน้าสตั๊นแมนท์ ยิ่งกับในหนังแฟรนไชส์นี้ที่เป็นการต่อสู้ระยะติด กลุ่มตัดต่อคงจะดำเนินการยาก ถ้าจะต้องถ่ายสตั๊นท์แมนที่ไม่ใช่ Reeves ในระยะใกล้ บางทีอาจต้องชูคุณงามความดีให้กับผู้กำกับ Chad Stahelski ที่ควบคุมมาอีกทั้ง 3 ภาค ดูหนังใหม่2021 (ควบคุมร่วมในภาคแรก) ผู้เป็นสตั๊นท์แมนประจำตัว Reeves ในหนังสามภาค The Matrix มาก่อน ทำให้ทราบงานอย่างดีเยี่ยมเหตุผลที่ 2 Reeves เลือกใช้ชื่อหนังว่า John Wick อย่างตรงตัว เพื่อผู้ชมเข้าถึงง่ายในบทฉบับร่างแรกๆที่เขียนโดย Derek Kolstad นักเขียนบทหลักของเรื่องนี้นั้น เคยใช้ชื่อหนังว่า Scorn (หมายความว่า ดูถูกดูแคลน ในตั้งแต่นี้ต่อไป) ซึ่งจะบอกถึงชายแก่วัยต้นๆ60 ซึ่งจะบ่งชี้ถึงสถานะของผู้แสดง John Wick ที่ถูกลบหลู่ดูหมิ่นจากสมาชิกคนอื่นๆในชมรมมือสังหาร แต่ว่าสุดท้ายกลุ่มสร้างภาพยนตร์ก็ตกลงปลงใจเปลี่ยนทิศทางของการตั้งชื่อหนังมาจุดโฟกัสที่ดาราภาพยนตร์ ผู้จะมาบอกเล่าเรื่องราวสุดทุกข์ใจอันเป็นเหตุให้เขาจึงควรออกมาบู๊ มากยิ่งกว่าการเลือกดาราจากรูปร่างรวมถึงความแก่ โน่นเป็นตอนที่ Reeves เข้ามารับเล่น และก็เป็นไอเดียของเขาที่ขอแปลงชื่อของหนังจาก Scorn เป็นชื่อเต็มละครหลวงเรื่องเป็นตรงไปตรงมา เพื่อแสดงความดิบและบริสุทธิ์ใจ Kolstad พูดว่า ชื่อ จอห์น และก็ เฮเลน วิค นั้นเป็นชื่อตาและยายของเขาเองเหตุผลที่ 3 เลือกใช้ “หลังคา” เดียวกันกับ Spider-Man ภาคแหล่งเกิดอาจจะฟังดูคือเรื่องของการเชื่อโชคลางไปสักนิดสักหน่อย แม้ว่าในภาค 2 นั้น ฉากที่จอห์นกำลังคุยกับ “วินสตัน” บนหลังคา โน่นเป็นเป็นหลังคาเดียวกันกับที่ใช้ถ่ายทำ Spider-Man (2002) ภาคแรกซึ่งเป็นภาคที่คะแนนวิภาควิจารณ์อยู่ในลำดับแรกๆของแฟรนไชส์ ในฉากที่สไปเดอร์แมนช่วยเหลือแมรี่ เจน ได้เสร็จจากกรีน กอบลิน (แสดงโดยดาราภาพยนตร์มากเรื่องสามารถ Willem Dafoe ซึ่งเหมาะสมที่สุดในดาราภาพยนตร์ของ John Wick ภาค 1 ด้วย) สถานที่ที่ถ่ายทำเป็น หลังคาของสถาบันศิลปเมืองนิวยอร์ก (Metropolitan Museum of Art) …จะสื่อว่า หนังที่มาถ่ายที่ตรงนี้ ดังมันทุกเรื่องนั่นแหละเหตุผลที่ 4 Halle Berry ฝึกหัดหนัก กับการแสดงร่วมกับสุนัขนักสู้ด้วยตัวเองHalle Berry ศิลปินผู้ครอบครองรางวัลออสการ์เป็นแฟนตัวยงของหนัง John Wick อยู่แล้วก่อนตกลงรับเล่นภาค 3 Parabellum คุณก็เลยไม่ลังเลที่จะตกปากรับคำเพื่อนพ้องผู้แสดงอย่าง Reeves ที่จะจะต้องบริหารร่างกายและก็ฝึกคิวบู๊อย่างยิ่งเพื่อรับบทบาทนำหญิงของเรื่อง ซึ่งระดับคุณย่อมปรากฎตัวแบบไม่ธรรมดา เนื่องจากใช้น้องหมาเป็นเพื่อนร่วมต่อสู้ด้วย Berry ฝึกซ้อมอย่างยิ่งเพื่อควบคุมน้องหมาระหว่างแสดงด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นที่จะจะต้องใช้ผู้ฝึกสอนระหว่างการถ่ายทำ ซึ่งทำให้คณะทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุ๊ปกล้องถ่ายสำหรับภาพถ่ายทำได้อย่างสะดวกขึ้นเยอะเหตุผลที่
